ต้นไม้เดียวดาย
.
ถือเป็นการเดินทางที่บ้าดีเดือดโดยแท้กับการย่ำเท้าในวันที่แสงแดดแผดเผาร่าง แค่เพียงต้องการจะมาเก็บภาพต้นไม้เพียงหนึ่งต้น
.
"Lonely Tree" เกือบจะหลุดโผไปตั้งแต่วันที่เราวางแผนการเดินทาง เพราะผมรับรู้ว่าสถานที่นี้มันไม่ได้มีอะไรแปลกประหลาดไปมากเสียกว่าต้นไม้ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ อีกทั้งการเดินทางก็ค่อนข้างไกลและใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงอย่างน้อย พอถึงป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดก็ต้องเดินอีกเกือบหนึ่งกิโลเมตร แล้วใครกันจะบ้าเดินทางยาวนานขนาดนี้เพื่อมาเก็บภาพถ่ายเพียงภาพเดียวกันแน่
.
เราถอนหมุดออกก่อน แล้วจึงกลับมาปักหมุดสถานที่นี้อีกครั้งก่อนออกเดินทางได้หนึ่งวัน เหตุคงเป็นเพราะผมดันไปค้นเจอภาพของช่างภาพคนหนึ่งจากอินสตาแกรม มันเป็นรูปภาพต้นไม้ที่ถูกฉาบไปด้วยแสงยามเย็น แสงอาทิตย์สีส้มแดงตัดกับขอบฟ้าทำมุมเป็นประกายกับแม่น้ำ ดูช่างอบอุ่นและควรค่าแก่การเก็บไว้ในความทรงจำ และผมก็อยากจะเก็บโมเมนต์ดีๆไว้สำหรับการเดินทางในครั้งนี้
.
เราตั้งต้นออกเดินทางจาก Queensway Shopping Centre ตั้งแต่บ่ายสาม เพราะกะไว้ว่าจะไปรอคอยแสงเย็นจนกระทั่งค่ำมืด เราคาดคะเนเวลาไว้พอดิบพอดีกับแสงตอนห้าโมงเย็น แต่ทว่าความร้อนแรงของแสงแดดก็ทำให้เราตัดสินใจถ่ายภาพ Lonely Tree ไม่กี่รูปแล้วจึงรีบกลับออกมา ประจวบกับการเดินลัดเลาะที่ทำให้เราต้องเสียกำลังไปเป็นจำนวนมาก
.
การตัดสินใจเดินทางมาทั้งๆที่ไม่คิดให้ถี่ถ้วน กลับทำให้ร่างกายของเราสะบักสะบอม ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินเท้าแค่หนึ่งกิโลเมตรกลับทำให้เรารู้สึกไม่อยากถ่ายรูปกับต้นไม้ที่ยืนเหงาอยู่ต้นเดียวต้นนี้เลย
.
ผมโบกมือลาพร้อมกับคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจ แม้ร่างกายเรายังไหว แต่ก็ต้องรับรู้ถึงหัวใจของผู้ร่วมเดินทางบ้าง ครั้นจะบุกป่าฝ่าดงไปคนเดียว สุดท้ายเราก็คงต้องยืนเดียวดายเหมือนต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้า แต่หากเราเข้าใจและค่อยๆปรับเปลี่ยนวิถีการเดินทางให้สอดคล้องไปพร้อมกันให้ได้ ท้ายสุดแล้วเราจะได้พาลพบกับภาพความทรงจำที่จะผูกพันกันไปแสนนาน
.
ผมเลือกที่จะกดชัตเตอร์เพื่อเก็บภาพ "ต้นไม้" เพียงไม่กี่ภาพ ในสมองก็กำลังประมวลผลว่าไม่ต้องมีมนุษย์หน้าไหนไปยืนข้างๆมันตรงนั้นหรอก หากว่าทุกคนจะตั้งใจตั้งชื่อมันว่า "Lonely Tree" แล้ว มันอาจดูแข็งแกร่งและยืนหยัดอยู่บนสถานที่แห่งนี้เพื่อให้คนมาเชยชม ส่วนผมขอหันกลับมาดูแลคนที่ร่วมเดินเคียงข้างไปด้วยกัน เพราะเราจะไม่ปล่อยให้เขาคนนั้นยืนอยู่ลำพังเหมือนต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ที่ไร้ซึ่งความสัมพันธ์กับสิ่งใด
.
ต้นไม้ต้นหนึ่งอาจถูกตั้งร้างทิ้งไว้เพื่อให้คนจำนวนหนึ่งมาถ่ายรูปกับมันแล้วหันหลังกลับ แต่สำหรับผม มันคือคติเตือน ที่จะทำให้เราต้องตั้งใจกับการเดินทางต่อไปในวันข้างหน้าเสียจริง
.
.
การเดินทาง 🚊
- นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงไปลงสถานี Ang Mo Kio ให้มองหาป้าย exit C เพื่อจะไปต่อรถเมล์ยัง Bus Interchange
- พอเดินไปสุดจะเจอท่ารถเมล์ B1 แล้วต่อ Bus 138 ไปจนถึงป้าย 48089 Upp Seletar Reservoir
.
📍สามารถติดตาม " Theexplorer " ได้หลายช่องทางดังนี้
( ฝากกด Like & Share & See first กันด้วยน้า )
- IG : theexplorer.photographer
- FB Page : Theexplorer
https://www.facebook.com/Theexplorerphotographer